นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการขับเคลื่อนแผนงานบูรณาการความร่วมมือภาครัฐและเอกชนเพื่อเสริมศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจภาค/กลุ่มจังหวัดและจังหวัด ประจำปี 2565 ระดับผู้ปฏิบัติงาน และบรรยายพิเศษเรื่อง กลไก กรอ. กับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.30 น. ณ ห้องอัมรินทร์ ชั้น 3 โรงแรมเอสดี อเวนิว เขตบางพลัด กรุงเทพฯ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นางนิศากร วิศิษฐ์สรอรรถ รกน.ที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ และนายทรงกลด สว่างวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ช่วยราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมงานประกอบด้วย ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงาน กรอ. จังหวัด 76 จังหวัด ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชนจากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และผู้แทนสำนักงาน กกร. ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติราชการ ประกอบด้วย
1. ให้ความสำคัญกับการบูรณาการงานและร่วมมือระหว่างคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัดและกลุ่มจังหวัดและภาคีเครือข่าย ดำเนินการจัดประชุมและเข้าร่วมประชุม กรอ. อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง
2. ให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับสังคมที่เป็นหัวใจสำคัญในการปฏิบัติงาน
3. ให้ความสำคัญกับการบูรณาการตามหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระพระบรม-ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้ในการปฏิบัติราชการ
4. รณรงค์ส่งเสริมให้มีการสวมใส่ผ้าไทย ตามพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวตามโครงการพระราชดำริสร้างความมั่นคงทางอาหาร “บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง” ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
5. ทำนุบำรุงและจัดทำเรื่องราวความเป็นมาของศาสนสถานและสถานที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด ให้เป็นสถานที่แห่งความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่
6. ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญที่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างดำเนินการและได้รับความสนใจจากสังคมในขณะนี้ คือ การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกลไกศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.)